เราน่าจะเคยได้ยินประโยคนี้กันอยู่บ่อยๆ ใช่มั้ยครับ
น่าแปลกใจมั้ยครับ ว่าทำไมเราถึงคิดกันแบบนั้น?
น่าแปลกใจมั้ยครับ ว่าทำไมเราถึงคิดกันแบบนั้น?
ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะสังคมไทยมีรูปแบบสถาบันครอบครัวที่ลูกหลานต้องดูแลบุพการีในยามแก่เฒ่า ซึ่งในตอนที่พ่อแม่ยังมีเรี่ยวแรง เราจึงเอาแต่ทำงานหาเงินส่งลูกเรียนให้สูงๆ ด้วยความหวังว่า...
"เดี๋ยวลูกเรียนจบ...ก็สบายแล้ว"
คำว่า "สบายแล้ว" ในที่นี้ มีได้หลายความหมายครับ อาจจะสบายเพราะไม่ต้องส่งค่าเล่าเรียนแล้ว หรือ สบายเพราะลูกจะมีรายได้มาดูแลเราแล้ว ซึ่งหากเป็นประการหลัง ผมอยากให้เราในฐานะพ่อแม่ ในวันนี้
ลองคิดมุมกลับสักเล็กน้อยครับ...
แม้ว่าลูกของเรา เรียนจบ มีงานการทำ มีรายได้ของตัวเองแล้วก็ตาม แต่...เค้าก็จะมีชีวิต มีภาระ มีค่าใช้จ่ายของตัวเองและครอบครัวของเค้าในอนาคตต่อไปเช่นกัน และผมมองว่ารายได้ของคนเพิ่งเรียนจบ แค่ให้เลี้ยงตัวเองให้อยู่รอดได้ดี ก็น่าจะหืดขึ้นคอแล้วในยุคนี้
#อย่าคาดหวังความสบายจากการที่ลูกจะมีเงินมาดูแลเรา ได้อย่าง100% นะครับ จุดนี้อันตรายเกินไป อันตรายทั้งสำหรับพ่อแม่ และ อนาคตทางการเงินของลูกคุณด้วย
#สิ่งสำคัญที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ต้องเตรียมตัว วางแผนดีๆ นอกจากเรื่องของการหาเงินส่งลูกเรียนแล้ว คือการวางแผนเกษียณให้สำหรับตนเองให้ครอบคลุมทุกๆด้านครับ ทั้งค่าใช้จ่ายส่วนตัวยามแก่ การรักษาพยาบาลตอนเจ็บป่วยตามวัย หรือ เงินก้อนสุดท้ายที่จะทิ้งไว้ให้คนข้างหลัง ทุกๆอย่างล้วนสำคัญหมดครับ
ผมถึงพยายามเน้นย้ำว่า "การวางแผนการเงิน" เป็นเรื่องสำคัญมาก ยิ่งเร็วเท่าไหร่ยิ่งดี เพราะมันต้องใช้เวลางอกเงยนะครับ ถ้าคุณมัวแต่ทำงานหาเงินส่งลูกเรียน โดยหวังว่าลูกคุณจะเป็น #สวัสดิการสุดท้ายของชีวิต คุณกำลังเดินทางผิดแล้วครับ
สวัสดิการที่ดีที่สุดในชีวิตเรา เราต้องสร้างมันขึ้นมาเอง ในขณะที่ยังมีเรี่ยวแรง แม้ว่าคุณจะมีลูก มีครอบครัวในระหว่างทาง นั่นเป็นหน้าที่ที่คุณต้องบริหารจัดการค่าใช้จ่ายให้ดี และก็ห้ามละเลยการวางแผนเพื่อเกษียณของตัวเอง เด็ดขาด!!
ยามที่ตัวเราแก่เฒ่า ผ่านพ้นวัยทำงานหาเงิน เราควรอยู่ในจุดที่ดูแลตัวเองได้ดี และ เป็นที่พึ่งพิงให้ลูกหลานในวันข้างหน้าครับ ไม่ใช่เป็นภาระเกาะตามเค้าไป จนเค้าเติบโตไม่ได้ ชีวิตใคร ชีวิตมัน ชีวิตลูกก็เช่นกันครับ
คุณคงไม่อยากสบาย แล้วให้ลูกคุณเริ่มต้นชีวิตการทำงานแบบมีคุณเป็นภาระใช่มั้ยครับ ??
ความสบายจะขึ้นอยู่ที่เราใช้ชีวิตแบบไหน ในวันนี้...
ไม่ได้ขึ้นอยู่กับการเรียนจบของลูกครับ เชื่อผมเถอะ
ไม่ได้ขึ้นอยู่กับการเรียนจบของลูกครับ เชื่อผมเถอะ
- มงคล ลุสัมฤทธิ์ -
Wealth Designer
Wealth Designer
• บทความโดย คุณมงคล ลุสัมฤทธิ์ • CEO of WDC Group •
Website: www.wdcgroup.co.th
Line@: http://line.me/ti/p/%40wealthdesigner
#WDCgroup
#WealthDesigner
#OurTouchForTheBetterLife
#ทุกชีวิตที่เราสัมผัสจะต้องดีขึ้น